สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เอิร์ธมีรีวิวมาฝากกันอีกแล้ว อ๊ะๆ ! แต่บล็อกนี้เอิร์ธจะยังไม่พาสาวๆ ไปอัพเดทเรื่องบิวตี้กันนะ แต่ว่าจะพาทุกคนเปลี่ยนที่นอนไปหาไอเดียและแรงบันดาลใจกันที่โรงแรมใกล้กรุงเทพอย่าง Siam@Siam Design Hotel Pattaya
เคยได้ยินคำว่าบรรยากาศดีๆ สถานที่ใหม่ๆ จะทำให้เราเกิดไอเดียดีๆ ขึ้นมามั้ยคะ เอิร์ธเป็นคนนึงที่เชื่อว่ามันจริงนะ เพราะงานของเอิร์ธเป็นงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ค่อนข้างเยอะ ซึ่งบางทีมันก็มีช่วงที่คิดงานไม่ออก ไอเดียไม่มา การที่เราได้เจอสถานที่ หรืออะไรใหม่ๆ ก็ทำให้ไอเดียดีๆ ผุดออกมาเพียบ! เหมือนกับการที่เอิร์ธไปได้ไปพักโรงแรม Siam@Siam ครั้งนี้ที่เอิร์ธได้ชาร์ทแบตพร้อมได้แรงบันดาลใจมาอีกเพียบเลยจ้า
Siam@Siam Design Hotel Pattaya
เป็นโรงแรมสีน้ำเงินที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับอัลคาซ่าร์บนถนนพัทยาสาย 2 โซนพัทยาเหนือค่ะ ถ้าใครที่ขับรถมาจากมอเตอร์เวย์จะ ก็แนะนำให้พุ่งตรงไปที่เส้นเลียบหาดกันก่อน แล้วค่อยเลี้ยวซ้ายเพื่อทะลุกลับมาที่ถนนพัทยาสาย 2 เพราะเส้นนี้เค้าเป็นทางวันเวย์ค่ะ
สำหรับใครที่ขับรถมาก็สามารถขับวนไปจอดที่ชั้น 2-5 ก่อนจะลงลิฟต์มาเพื่อเช็คอินกันที่ล็อบบี้ค่ะ
เมื่อเข้ามาเช็คอินก็จะได้เจอกับพนักงานที่เตรียมให้บริการเป็นอย่างดี อย่างช่วงที่เอิร์ธไปเป็นช่วงที่มีทัวร์เช็คอินเยอะมากๆ แต่พนักงานก็ไม่ปล่อยให้เราเคว้งคว้าง รีบเข้ามาแนะนำพร้อมช่วยยกกระเป๋าเพื่ออำนวยความสะดวก แถมยังมี Welcone Drink เป็นน้ำอัญชันมะนาวอร่อยๆ มาให้ดื่มดับกระหายกัน
สำหรับใครที่มาพักที่นี่จะต้องมีค่ามัดจำห้องจำนวน 500 บาทด้วยนะจ๊ะ เอิร์ธแนะนำว่าเตรียมเงินไว้ก่อนล่วงหน้าก็ดีน้า
บรรยากาศของโรงแรมจะเน้นไปที่สีสันจัดจ้าน โดยมีสีน้ำเงินและม่วงเป็นหลัก พร้อมกับงานดีไซน์เก๋ๆ แรวไทยโมเดิร์น ซึ่งดูแล้วสดใสเหมือนกับอยู่ในดงงานอาร์ทเลยจ้า สมกับที่เป็น Design Hotel จริงๆ ค่ะ
เดินเลยล็อบบี้มาอีกนิดก็จะเจอกับ Car Bar ที่เป็นบาร์นั่งเล่นชิวๆ มีความเก๋ตรงที่เค้าเอารถมาทำเป็นเก้าอี้นั่งค่ะ
แล้วพี่พนักงานก็พาเราขึ้นไปที่ห้อง พร้อมแนะนำการใช้ลิฟต์ที่เราจะต้องมีคีย์การ์ดเท่านั้นถึงจะขึ้นไปที่ห้องได้ โดยเราจะสามารถขึ้นไปได้เฉพาะชั้นของห้องเราและสระน้ำกับห้องอาหารเท่านั้น อย่างเอิร์ธอยู่ชั้น 21 ก็สามารถขึ้นไปได้ที่ชั้น 21 และสระน้ำชั้น 24 ห้องอาหารชั้น 6 เท่านั้นค่ะ เพื่อความปลอดภัยของลูกค้า ซึ่งเอิร์ธชอบมากๆ เลย ดูปลอดภัยดีค่ะ
ห้องที่เอิร์ธพักเป็นห้อง Leisure Class ค่ะ
มาถึงห้องแล้วก็อย่าลืมเอาคีย์การ์ดเสียบเพื่อเปิดไฟนะจ๊ะ และสิ่งที่เอิร์ธชอบอีกอย่างนึงของเค้าก็คือ ทุกสวิตซ์ไฟเค้าจะมีบอกว่าเป็นไฟของส่วนไหน ซึ่งจุดนี้เอิร์ธว่าดีมากๆ ไม่ต้องเสียเวลามานั่งสุ่มกดไปเรื่อยๆ ว่าปุ่มนี้คือไฟดวงไหนกันนะ
ความเก๋อีกอย่างนึงของเค้าก็คือ เค้าจะมีปลั๊กให้ใช้เยอะมากๆ หลายจุดเลย รวมแล้วเกือบ 10 ปลั๊กเลย ทำให้ไม่ต้องแย่งกันใช้ รวมไปถึงมีการต่อสาย USB , HDMI เข้า TV ด้วยนะจ๊ะ แต่เอิร์ธลองใช้สายเสียบ USB To TV ปรากฏว่าใช้ไม่ได้แหละ ไม่รู้ทำไม
อีกจุดนึงที่เอิร์ธว่ามันน่ารักดีก็คือป้าย Do Not Disturb ของเค้าที่เป็นแปรงทาสี เก๋ดีค่ะ เอิร์ธเอิร์ธชอบบ 5555
สำรวจจุดต่างๆ ของห้องกันดีกว่า
ชั้นวางรองเท้าของเค้าก็เก๋ค่ะ เป็นลิ้นชักอยู่ข้างๆ ประตู
บรรยากาศในห้องจะเป็นสีฟ้า ส้ม แล้วก็ขาว เมื่อเดินเข้าไปก็จะเจอกับแผงกั้นสีฟ้าที่กั้นระหว่างเตียงกับประตู
เตียงใหญ่ สะอาดและนอนสบายดีค่ะ หมอนและผ้าห่มของเค้าสะอาด ดูใหม่ และจัดไว้อย่างเรียบร้อย
พร้อมกับมีโซฟาสีฟ้าไว้นั่งทำงานชิวๆ
แน่นอนค่ะ สิ่งที่เอิร์ธมองหาก่อนก็คือโต๊ะเครื่องแป้งค่ะ ซึ่งเค้าก็จะเป็นโต๊ะเล็กๆ พร้อมโคมไฟ แต่ความพีคอยู่ตรงโต๊ะเค้าที่ตั้งอยู่ใกล้หน้าต่างซึ่งแสงดีมากๆ แบบที่สามารถแต่งหน้าทำ How To ได้เลย 5555
โซนบาร์ในห้องเค้าก็มีอุปกรณ์ครบครันทั้ง ชา กาแฟ กาน้ำร้อน ตู้เย็น แก้วต่างๆ ตั้งแต่แก้วกาแฟยันแก้วไวน์เลยจ้า 555
ห้องน้ำของเค้าจะแบ่งออกเป็นโซนๆ ค่ะ คือโซนอ่างล้างหน้า ห้องน้ำแบบฟักบัว ห้องส้วมและตู้เส้อผ้าที่เปิดได้ 2 ด้าน พร้อมอุปกรณ์ต่างๆ อย่างแปรงสีฟัน ไดร์ สบู่ และแชมพู
วิวจากห้องพักก็สวยไม่เบาค่ะ ห้องนี้จะเห็นทั้งโซนเมืองและโซนทะเลเลย แต่จะเน้นไปที่วิวเมืองซะมากกว่าค่ะ
งานพาโนราม่าก็มา
นอนกลิ้งไปมาบนเตียงแล้วก็มาพบกับความประทับใจนึงบนจอทีวีค่ะ เพราะเค้ามี Welcome Massage จากโรงแรมถึงเราด้วย น่ารักมากๆ
พักในห้องกันจนหายเหนื่อยแล้วก็ถึงเวลาขึ้นไปดูจุดไฮไลท์ของเค้ากัน นั่นก็คือสระน้ำทั้ง 2 ชั้นของเค้า
มาดูกันที่ชั้น 24 ซึ่งเอิร์ธชอบสระน้ำนี้มากที่สุด
ชั้นนี้เค้าจะมี Bar เล็กๆ ไว้สำหรับให้นั่งผ่อนคลายด้วยค่ะ พอเดินไปก็จะเจอกับสระน้ำกึ่งๆ Out Door ที่มีด้วยกันหลายสระเลย แต่จะเป็นสระเล็กๆ สำหรับแช่น้ำ โดยจะมีประมาณ 5 สระพร้อมน้ำวนๆ ให้เราได้นวดตัว 4 สระ และสระใหญ่ที่มองเห็นวิวทะเลอีก 1 สระ และเก้าอี้ชายหาดกลางน้ำที่นอนแล้วบอกเลยว่าชิวสุดๆ
ความฟินของชั้นนี้คือลมเย็นๆ ที่พัดอยู่ตลอดเวลาทำให้เรารู้สึกชิวมากๆ พร้อมกับวิวดีๆ ที่มองทีไรก็เพลิน จนไม่อยากจะออกไปไหน ทั้งเล่นน้ำไป แวะพักมาทำงานคือฟิน เหมือนกับได้พักผ่อนจริงๆ ค่ะ
ข้างๆ สระน้ำก็จะมีที่นั่งไว้ให้นั่งชิว หรือทำงาน โดยตรงจุดนี้มีไวไฟมาถึงแล้วก็แรงด้วย แถมยังมีปลั๊กเยอะมากๆ ให้เราได้ใช้ชาร์ทแบตคอมหรือโทรศัพท์ค่ะ
วิวจากชั้น 24 ฟินมากกกกก
แอบแว๊บขึ้นไปชั้นบน ซักน่อย เวลาจะขึ้นไปชั้น 25-27 เราจะต้องไปเปลี่ยนลิฟต์ที่ชั้น 24 ข้างๆ บาร์ค่ะ
สำหรับชั้น 25 เค้าจะเป็นฟิตเนสเล็กๆ ไว้ให้ได้ออกกำลังกาย พร้อมมีล็อกเกอร์เล็กๆ ไว้เก็บของด้วย
ขึ้นมาชั้น 27 ค่ะ
ชั้นนี้ก็จะมีไฮไลท์ที่เรียกได้ว่า ถ้าใครไม่มาถือว่าไม่ได้มาพักที่ Siam@Siam นะจ๊ะ กับมัจฉานุ รูปปั้นพ่นน้ำสวยๆ พร้อมกับที่นั่งชิวริมน้ำ ชั้นนี้จะเป็น Out Door ค่ะ เหมาะสำหรับการพก Oil มาทาผิวแล้วอาบแดด
ส่วนวิวของชั้นนี้ก็เก๋ไม่แพ้กัน เพราะสามารถมองเห็นวิวได้แบบพาโนราม่า เห็นทั้งเวิ้งหาดของพัทยา และตัวเมืองพัทยาได้แบบเต็มที่
ตกเย็นชั้น 27 นี้ก็จะกลายเป็นบาร์รับลมชิวๆ สำหรับ Hang Out กันค่ะ หรือจะเอางานมานั่งปั่นแบบเอิร์ธก็ได้นะ เพราะไวไฟของเค้าก็มีให้ใช้แถมยังไวอีกด้วย
อ้อ! สำหรับวันอาทิตย์เค้าจะมีกิจกรรม Sunday Social ที่มี DJ มาเปิดแผ่นให้ฟังชิวๆ ทั้งวันด้วยนะ แหมม ถ้าได้นั่งชิวๆ เคล้าเพลงเพราะๆ คงฟินไม่เบา
พูดกันตรงๆ ว่าเวลามาพัทยาเอิร์ธไม่ชอบเล่นน้ำ 555 แต่จะชอบดื่มด่ำอยู่ในโรงแรมมากกว่า ตอนเย็นเอิร์ธกับแฟนเลยตัดสินใจฝากท้องไว้กับห้องอาหาร Big Fish ที่เค้ามีบุพเฟ่ต์ซีฟู้ดและบาร์บีคิวกันในราคา คนละ 650 บาท ไม่รวมน้ำ แต่ถ้าใครอยากจะจิบไวน์ด้วยเค้าก็จะมีราคาบุพเฟ่ต์อยู่ที่ประมาณ 950 บาทค่ะ
อาหารของเค้าก็จะเป็นบุพเฟ่ต์อาหารทะเลที่เราสามารถเลือกตักเองแล้วนำไปให้เชฟปรุงให้เราได้
ไฮไลท์สำหรับเอิร์ธยกให้เป็นขาปูอลาสก้า พร้อมกับหอยนางรมที่บอกเลยว่าสด กินเพลินเลย
อาหารญี่ปุ่นและอาหารไทยก็มีค่า
ของหวานของเค้าก็เยอะมาก เอิร์ธเอิร์ธชอบ 5555
หลังจากพุงกางก็ได้เวลามาทำงานต่อที่ห้องค่ะ ทางโรมแรมเค้ามีขนมและผลไม้ให้เราได้หม่ำไปด้วย แต่ที่ฟินที่สุดก็คือวิวดีๆ จากหน้าต่าง ที่ทำให้การทำงานฟินมากยิ่งขึ้น เสียดายที่เค้าไม่มีระเบียง ไม่อย่างนั้นคงจะชิวไม่เบาค่ะ
อย่างที่เอิร์ธบอกไปว่าไวไฟของที่นี่เค้ามีทุกที่และไวมากๆ เห้ยอันนี้พูดจริงๆ แบบไม่ได้อวย เอิร์ธไม่เคยใช้ไวไฟโรงแรมไหนในประเทศไทยที่ไวขนาดนี้มาก่อน ที่นี่เอิร์ธสามารถอัพบล็อกไปได้ ดู VDO ของตัวเองในยูทูปได้โดยที่ไม่ทำให้ติดขัด และที่สำคัญคือมีไวไฟให้เล่นแทบทุกที่ ทั้งห้องนอน สระน้ำ ห้องกินข้าว หรือแม้แต่ห้องน้ำยังมีเลย 5555
วิวจากห้องนอนตอนกลางคืนค่ะ
หลังจากนอนพักกันแบบเต็มอิ่ม หลับสบายและหลับสนิทกับแอร์ที่เย็นฉ่ำ ก็ได้เวลามาทานอาหารเช้ากันแล้วค่ะ
อาหารเช้าที่นี่สามารถทานได้ตั้งแต่ 6.00-10.30 น. ซึ่งคนอย่างเอิร์ธเอิร์ธฟาดไป 9 โมงครึ่งค่าาา โถววว TTT ทำไงได้มันนอนสบายยย ;P
อาหารเค้าจะเป็นบุพเฟ่ต์อาหารเช้านานาชาติ มีทั้งอาหารเช้าไทยๆ อย่างน้ำเต้าหู้ กับข้าวต่างๆ หรือจะเป็นขนมปัง ไส้กรอก รวมไปถึงแพนเค้ก และของหวานต่างๆ ทั้งผลไม้ โยเกิร์ตที่มีให้เลือกทานเยอะมากๆ ค่ะ
เพราะตื่นสายก็เลยต้องรีบอาบน้ำและเช็คเอ้าท์ก่อนเที่ยง ทำให้แพลนที่วางไว้ว่าจะว่ายน้ำชิวๆ แอบล่ม ฮือออ ไม่อยากกลับกทม. เลยค่ะ แต่ก็ต้องกลับ 55555
เอาล่ะ ! มาให้คะแนนโรงแรมนี้กันหน่อยดีกว่า
สำหรับโรงแรมนี้เอิร์ธชอบมากๆ เลยนะคะ โดยเฉพาะสระว่ายน้ำชั้น 24 ของเค้าที่ชิวมากก จนอยากจะกลับไปอีก อ้อ! แต่ถ้าใครที่อยากจะไปว่ายน้ำแบบจริงจังบอกเลยว่าไม่เหมาะนะคะ เพราะสระน้ำเค้าค่อนข้างเล็กและตื้น แต่สำหรับเอิร์ธที่เน้นการแช่น้ำ บอกเลยว่าฟินสุด!
ที่ชอบอีกอย่างนึงก็คือไวไฟของเค้าที่สัญญาณดีมากๆ ผู้หญิงติดโซเชี่ยลอย่างเอิร์ธคือฟิน รวมไปถึงอาหารที่อร่อย การบริการของพนักงานที่น่ารักมากๆ ยิ้มแย้มและพร้อมให้บริการตลอดเวลา นอกจากนี้บรรยากาศและการตกแต่งของโรงแรมก็ทำให้เอิร์ธได้เกิดแรงบันดาลใจใหม่ๆ เพียบเลยค่ะ
อีกเรื่องที่เป็นความฟินส่วนตัว ก็คือมุมต่างๆ ของเค้าสามารถถ่ายรูปได้เยอะมากๆ แถมแสงก็ดีนะคะคุณ ในห้องนอนของเค้าสว่าง ไม่มืด เหมาะกับการขนโปรดักข์ไปถ่ายรีวิว หรือว่าถ่ายรูปมาอัพไอจีกันจ้า 555
คะแนน
ความสวยงามและบรรยากาศ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
ความสะดวกสบาย ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
พนักงานและบริการ ♥ ♥ ♥ ♥
ความคุ้มค่า ♥ ♥ ♥ ♥
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : Siam At Siam Design Hotel Pattaya
Sponsor by :