ฮัลโหลทุกคนนนน วันนี้จะพาทุกคนไปเที่ยวเขาใหญ่กันจ้า เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเอิร์ธกับ 5 สาวบล็อกเกอร์ ไปบุกตะลุยเขาใหญ่กันมาค่ะ ซึ่งเป็นการไปเที่ยวที่รวบรวมแต่ที่กินเริ่ดๆ ร้านอาหารสวยๆ ที่พักดีๆ ไว้เต็มที่เลยจนต้องเอามารีวิวบอกต่อกันในบล็อกนี้นี่แหละ ดังนั้นอย่ารอช้า มาดูกันเลยยยยยย ;D
Day 1
ออกจากกรุงเทพกันประมาณ 10 โมงวันอาทิตย์ค่ะ รถไม่ติดมาก โดยทริปนี้เราเช่ารถตู้เล็ก Granvia ราคาวันละ 1,800 กันไป เม้าท์กันไปมา 2 ชม.ก็ถึงเขาใหญ่กันแล้ววว
ที่แรกสำหรับทริปนี้ก็คือ The Chocolate Factory ค่ะ อยู่ในเส้นถนนธนะรัชต์ ที่นี่จะเป็นร้านช็อกโกแลตที่มีเราสามารถดูเค้าทำกันสดๆ มีช็อกโกแลตให้ซื้อและชิมเพียบเลยยยย แต่คนก็เยอะมากเช่นกันค่ะ 5555555 ผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเราไม่สู้ เลยอยู่กันได้แป๊บเดียวแล้วก็ออก โถววววว TT
หลังจากที่เซ็งกับเหล่าคนมหาศาล ก็ต้องระเห็ดมาหาที่ใหม่คะ นั่นก็คือร้านกาแฟสวยๆ อย่าง Yellow Submarine Coffee Tank ร้านกาแฟที่ขนาดไม่ใหญ่มาก แต่บอกเลยว่าเด็ดทุกมุม! ถ่ายรูปกันได้แบบเป็นบ้า! 555555
ร้านเค้าจะออกแบบมาเป็นทรงเรือดำน้ำ ที่จะเป็น Tank แนวยาวสีดำ แต่ชื่อ Yellow นะ 5555 พร้อมกับมุมนั่งเก๋ๆ ทั้งโซนห้องแอร์ และ Out Door ดีงามมากกกกก
กาแฟของเค้าก็จะราคาทั่วไปค่ะ เริ่มต้นแก้วละ 70-80 บาทขึ้นไป เหมือนกับร้านกาแฟในกรุงเทพนี่แหละ
ดื่มด่ำกับบรรยากาศกันแล้ว ก็ต้องมาหาอาหารคาวค่ะ แน่นอนค่าา หน้าอินเตอร์กันแบบนี้ ส้มตำสิค่ะคุณขาา 5555 ซึ่งร้านส้มตำในเขาใหญ่จะเป็นร้านอะไรไปไม่ได้เลย นอกจากร้านเป็นลาว
นี่ว่าร้านเค้าขนาดใหญ่จุคนได้เยอะแล้วนะ แต่! คนยังเยอะมากจนต้องรอคิวจ้าา ดังนั้นใครที่คิดจะไป แนะนำให้เผื่อเวลา หรือจองกันไว้หน่อยก็ดีนะจ๊ะ จะได้ไม่โมโหหิว ของดีก็ต้องรอนานแบบนี้แหละ 5555
เมนูของร้านบอกเลยว่าแซ่บสะเด็ดมากกกกก แต่ที่ดีแบบต้องสั่งเบิ้ล! นั่นก็คือเนื้อย่างค่ะ โอ้โห มันเด็ดจริงๆ เนื้อไม่เหนียว นุ่มมากก หมักมาดี กินกับน้ำจิ้ม โคตรฟินนนน ขอใช้คำนี้เลย จะได้รับรู้ถึงอรรถรส 5555
อ้อ อีกอย่างนึงที่อร่อยมากๆ นั่นก็คือ สละลอยแก้ว 555 มันดีจริงๆ สละเปรี้ยวกำลังดี ไม่จี๊ด น้ำลอยแก้วก็หวาน เข้ากันมากก สั่งเบิ้ลกันสนุกสนานเลยค่า ขอบอก
อิ่มหนำกันแล้วก็มาต่อกันที่ตลาดนัดเล็กๆ พร้อมสอดส่องโรงแรมดังฝั่งตรงข้ามอย่าง Birder’s Lodge ค่ะ
ที่นี่จะเป็นโรงแรมเล็กๆ แต่สวยมากกก ถูกใจสายถ่ายรูปสุดๆ โดยในพื้นที่ของเค้าก็จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนค่ะ คือโซนโรงแรม คาเฟ่ และตลาดที่จะเปิดทุกวันศุกร์ – อาทิตย์ ตั้งแต่ 10 โมง – 5 โมงเย็น ซึ่งของที่ขายในนั้นก็จะเป็นอารมณ์ Farmer’s Market พวกผักผลไม้สวยๆ ราคาถูก ต้นไม้ต่างๆ มีเยอะมากกกก เอิร์ธชอบมากจริงๆ
เดินเล่นกันซักพักก็ได้เวลาไปนอนเลื้อยในที่พักกันค่ะ สำหรับทริปนี้เราพักกันที่ Escape เขาใหญ่ โรงแรมสวยในเครือของแสนสิริ
ไปถึงที่พักแล้วบอกเลยว่าต้องร้องโอ้โห เพราะบรรยากาศของเค้าดีมากกกกก คืออยู่ท่ามกลางเขาจริงๆ อากาศไม่ต้องพูดถึง ดีมากกกก เย็นสบายยย กลางคืนเรียกว่าหนาวเลยทีเดียว
สำหรับห้องที่เราพักแบ่งเป็น 2 ประเภทค่ะ ก็คือ Pool Villa ที่จะมีสระน้ำเล็กๆ ให้เล่นส่วนตัว พร้อมโซนบาร์เล็กๆ ที่เอิร์ธว่าใครมากับแฟนนะต้องชิวสุดๆ
และโซนบนตึกที่มีระเบียงเล็กๆ สามารถเชื่อมห้อง 2 ห้อง Connect กันได้ มองลงมาเห็นเป็นวิวสระน้ำดีงามมากกก ใครอยากดูห้องพักเต็มๆ รอดูรีวิวบล็อกหน้ากันเลยจ้า แต่ถ้าใครอยากรู้ราคา ก็สามารถเช็คได้เลย คลิก
สำหรับมื้อเย็นวันนั้น เราฝากท้องกันที่ Escape Yard ค่ะ ซึ่งเป็นโซนบาร์บีคิวในโรงแรมที่บรรยากาศเหมือนอยู่เมืองนอกมากกกกกกก ไปแอ๊บได้ว่าเป็นปราก แต่ที่จริงคือปากช่อง! นี่แหละ 555 โดยเมนูที่เรากินก็จะเป็นเซ็ตบาร์บีคิว ที่เราสามารถย่างเองได้ร้อนๆ ชิลๆ ในราคาเริ่มต้นที่ 1,120 บาทต่อคนค่ะ คือมันชิว แบบชิวมากจริงๆ ใครอยากมาต้องรีบมานะ เพราะเค้าเปิดถึงแค่ 28 ก.พ.นี้เท่านั้นจ้า
Day 2
วันที่ 2 วันรักสัตว์ เพราะวันนี้เราจะไปเที่ยวสวนสัตว์พร้อมให้อาหารอัลปาก้ากันนนน 😀
ออกจากโรงแรมประมาณเที่ยงๆ แล้วพุ่งตรงไปที่ร้านอาหารครัวยุ้งข้าวค่ะ ร้านนี้เด็ดอีกแล้ววว เด็ดจริงอะไรจริง อาหารคือดีงามมากกกก โดยเค้าจะมีทั้งเมนูไทยๆ แกงใต้ และอาหารญี่ปุ่นเลยนะ ซึ่งเมนูเด็ดมื้อนี้ยกให้ แกงส้มกุ้ง ชะอมทอด คุณพระ! มันถึงเครื่องถึงใจ ฟินมากจนต้องสั่งข้าวเพิ่มมากินกับน้ำแกง เอาเส่ะะ!!
อิ่มแล้วก็ไปให้สวนสัตว์ Bonanza Exotic Zoo สวนสัตว์ที่เจ๊เปา บางพลี กับน้องปีใหม่มาเที่ยวกันนี่แหละจ้า ที่นี่เค้าจะมีสัตว์น่ารักๆ มากมายให้เราได้ดูกัน โดยจะต้องเสียค่าเข้าคนละ 100 บาทค่ะ จากนั้นก็สามารถเดินเที่ยวได้เลย หรือจะนั่งรถวนรอบราคาคนละ 50 บาทก็ได้นะ แต่วันที่เอิร์ธไปเค้าไม่มีรถบริการ แล้วแดดก็ไม่ร้อนค่ะ ดังนั้น เดินวนไปค่าา~
บรรยากาศข้างในร่มรื่นดีน้า เต็มไปด้วยสัตว์เก๋ๆ มากมาย
เห้ยเอิร์ธว่าที่นี่โอเคเลยนะ เดินเพลินๆ มีจุดให้อาหารสัตว์ แวะไปดูไป ก็เพลินดี ถ้าในอนาคตมีสัตว์เยอะกว่านี้น่าจะยิ่งฟินค่ะ
รักสัตว์ รักธรรมชาติแล้ว ขอไปหาร้านกาแฟนั่งสบายๆ กันต่อค่ะ ตอนแรกเลยกะว่าจะไปกันที่ อากาศ ของ Dean & Deluca แต่!!! เค้าเปิดเฉพาะวันศุกร์-อาทิตย์เท่านั้นค่าา วันที่เราไปเป็นวันจันทร์ แหมม เงิบเลย TT ใครอยากไปก็เช็ควันดีๆ นะเธอ 5555
เลยเปลี่ยนแผนไปที่ Primo Piazza กันแทน ที่นี่จะเป็นเหมือนหมู่บ้านที่รวมเอาร้านอาหารดีๆ ไว้ค่ะ พร้อมกับตึกสวยๆ ที่ถ่ายรูปได้ทุกมุมจริงๆ โดยเราจะต้องเสียค่าเข้าไปข้างในคนละ 100 บาทค่ะ ซึ่งหางบัตรค่าเข้านี้สามารถนำไปแลกหญ้า ให้อาหาร อัลปาก้า แกะ และลาได้ด้วย คือดี สนุกมากกกก 55555
กาแฟยังไม่ทันย่อย ก็ได้เวลาอาหารเย็นกันแล้ว มื้อนี้เราฝากท้องไว้กับร้านอันหยังก็ได้ ร้านคอนเซ็ปส์เก๋ๆ บนถนนธนะรัตน์ อย่าง “อร่อยเช้า แซ่บเย็น” ที่เค้าจะเปิดขายมื้อเช้าอร่อยๆ อย่างพวกข้าวแกง ข้าวต้ม ส่วนที่เอิร์ธไปเป็นช่วงเย็น ก็จะมีจิ้มจุ่มที่บอกเลยว่า อร่อยมากกกกกกกกกกกกก เอาก.ไก่ไปสิบตัว! น้ำซุปดีมากกก หมูและเนื้อที่หมักกันมาคือฟินที่สุด!!
ที่ชอบอีกอย่างคือเราสามารถบริการตัวเองได้แบบสบายๆ เลย ผัก น้ำจิ้ม หยิบและเติมเองได้แบบไม่อั้น ยิ่งวันที่เอิร์ธไปกิน อากาศของเค้าอยู่ที่ 24 องศาค่ะ พูดเลยว่าการได้กินจิ้มจุ่มร้อนๆ อร่อยๆ เฮฮากับเพือนในบรรยากาศแบบนั้น คือดีมากกก ดีที่สุดแล้ววว 😀
อ้อ! แอบแถมอีกอย่าง เอ็นข้อไก่ของเค้าดีมากกกกก ใครมาไม่ควรพลาดค่า
Day 3
วันสุดท้ายสำหรับทริปนี้ค่ะ เราเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมช่วงเที่ยง (ใครเค้าตื่นเช้ากัน เอ้ออ 555) แล้วก็พุ่งตรงไปหม่ำมื้อกลางวันกันที่ ร้าน The Castle Restaurant & Tearoomใน Thames Valley กันค่ะ
ความจริงแทบไม่ต้องเล่าร้านอะไรในนี้มากแล้วเนอะ เพราะเค้าดังมานานแล้ว สำหรับที่นี่เค้าจะมี 2 ส่วนด้วยกันค่ะ ในก็คือโซนโรงแรม Thames Valley ที่สวยมากกกกกกกกก บรรยากาศอย่างกับไม่ได้อยู่ในประเทศไทยเลย สามารถเช็คราคาโรงแรมได้เลย คลิก
อีกโซนนึงก็คือโซนร้านอาหารอย่าง The Castle Restaurant & Tearoom ร้านนี้เอิร์ธไปมาเป็นครั้งที่ 2 แล้วค่ะ ครั้งแรกลองเป็นเบอร์เกอร์และเหล่าอาหารสัญชาติอื่นๆ เอิร์ธว่าเค้าทำได้ดีเลย ส่วนครั้งนี้จัดอาหารไทยกันค่ะ ซึ่งเอิร์ธว่าร้านเค้าทำอาหารฝรั่งได้ดีกว่าไทยนะ ใครที่คาดหวังว่าจะเจออาหารไทยหรือฟิวชั่นแซ่บๆ อาจจะไม่ตอบโจทย์ค่ะ
ส่วนของหวานที่เราสั่งกันก็เลอค่ามากกกกกก อร่อย ถ่ายรูปงาม อ้อ! แต่ถ้าใครสั่งโทสต์ชาไทยอาจจะต้องรีบหม่ำกันนิดนึงนะจ๊ะ ทิ้งไว้นานๆ แล้วแอบแข็งไปหน่อย แหะๆ
อิ่มหนำสำราญกันแล้ว ก็พุ่งตัวกลับกทม.กันจ้าา แน่นอน ถึงกทม.ปุ๊บสลบปั๊บ และมีอาการมึนงงค้างกันไป 2-3 วันเลยทีเดียว 55555555
เอาเป็นว่าใครที่อยากจะไปเที่ยวเขาใหญ่ ก็ลองไปเอาร้านหรือที่เที่ยวต่างๆ ที่เอิร์ธแนะนำใส่ในแพลนกันนะจ๊ะ แล้วไม่ต้องกังวลเรื่องที่พักว่าจะหายากเลยนะ เอิร์ธมีเว็บไซด์ดีๆ ที่สามารถจองโรงแรมได้ถูกมาแนะนำกัน นั่นก็คือ Traveloka นั่นเอง
เว็บนี้เค้ามีที่พักและส่วนลดเจ๋งๆ ไว้เพียบเลยค่า สามารถเข้าไปดูกันได้เลยที่ https://www.traveloka.com/th-th/hotel หรือจะโหลดแอพของเค้ามาก็ได้เลยทั้ง iOS และแอนดรอยด์ค่า แต่ถ้าใครยังงงก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดในบล็อกเก่าของเอิร์ธได้เลย คลิก ข้อมูลแน่น เพียบ! หรือจะดูที่เฟสบุ๊กของ Traveloka www.facebook.com/TravelokaTH ก็ได้นะคะ
สำหรับโรมแรมต่างๆ ในเขาใหญ่ สามารถดูได้เลย Traveloka
บล็อกหน้าเอิร์ธจะพาทุกคนไปเที่ยวโรงแรมบรรยากาศดีอย่าง Escape เขาใหญ่ กันค่ะ ที่บอกเลยว่าสวยงามมากก เอิร์ธเก็บบรรยากาศมาทุกซอกทุกมุม รายละเอียดแน่นจนต้องเอามาเขียนให้ทุกคนดูกันอีกบล็อกนึงเลย!! คือถ้าเขียนรวมในบล็อกนี้ น่าจะยาวขนาดว่าอ่านกันจน 4G หมดเลยทีเดียว 5555 อย่าลืมติดตามกันด้วยนะจ๊ะ ส่วนบรรยากาศต่างๆ ทั้งร้านอาหาร ที่เที่ยวต่างๆ ก็สามารถอัพเดทกันได้ที่ FB และ IG ได้เลย มีรูปลงรัวๆ ยันปีหน้าบอกเลย 5555555
จุ๊บบ